อัสสาลามูอาลัยกุมครับ การเมืองโลกมุสลิมตอนที่13 นี้ผมอยากนำเสนอบทวิเคราะห์เกี่ยวกับประเทศมัลดีฟส์ทั้งในแง่ของประวัติศาสตร์ สภาพความเป็นอยู่ ปัญหา และอนาคตของประเทศนี้ ประเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิมที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่เราไม่ค่อยจะรู้จักหรือรับรู้ความเป็นไปในด้านอื่นๆมากนัก นอกจากจะรู้จักในนามของแหล่งท่องเที่ยวระดับห้าดาวของโลก
มัลดีฟส์เป็นประเทศมุสลิมประเทศหนึ่งที่ตั้งอยู่ในกลางมหาสมุทรอินเดีย โดยมีชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐ มัลดีฟส์ (Republic of Maldives)มีสภาพเป็นหมู่เกาะขนาดเล็กร้อยเรียงกันเป็นแถวราว 1,190 เกาะ(1) บนเนื้อที่ประมาณ 298 km (2) ประเทศนี้อยู่ทางตอนใต้ของประเทศศรีลังกา เป็นประเทศที่มีขนาดเล็กมากๆ ครับ เล็กถึงขนาดว่าหากคุณไปหยิบแผนที่โลกมาดูแล้วจะอุทานขึ้นว่า โอ้.....นี่มันประเทศหรือนี่ ? .......มีด้วยเหรอ ? ทำไมมันเล็กขนาดนี้ ?
แผนที่ประเทศมัลดีฟส์
มัลดีฟส์ นั้นในสมัยก่อนนั้น เป็นที่พักหยุดเรือของนักเดินทาง และนักวานิชค้าขายครับ โดยเฉพาะชาวอาหรับที่มักจะค้าขายกันทางเรือเป็นประจำระหว่าง อาหรับ , เปอร์เซีย กับ อินเดียและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง นูซันตารา(อินโดเนเซียปัจจุบัน) มาลากา(มาเลเซียปัจจุบัน)และกรุงศรีอยุธยา จนทำให้ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักและมีการอพยพเข้ามาอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยที่คนรุ่นก่อนที่อาศัยอยู่ที่นี่นั้นเป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธครับก่อนที่จะมารับอิสลามในช่วงศตวรรษที่ 12 (3) จากการนำเข้ามาเผยแพร่ของนักวานิชค้าขายจากอาหรับและเปอร์เซีย หลังจากนั้นมัลดีฟส์ก็ตกเป็นของอังกฤษในช่วงยุคล่าอาณานิคมครับ จนต่อมาก็ประกาศเอกราชแยกตัวออกจากอังกฤษเมื่อปี 1965(4).
Mohamed Nasheed ประธานาธิบดี คนปัจจุบันของมัลดีฟส์
ในปัจจุบันเมืองหลวงของมัลดีฟส์ คือ กรุงมาเลครับ(Malé )ที่นี่นั้นเป็นประชากรมุสลิมเกือบ 100% เลยครับ ราวๆ314,000 คน(5) โดยอาชีพหลักของคนที่นี่คือ การทำประมง เนื่องจากมัลดีฟส์มีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบรูณ์ และส่วนน้อยที่เหลือก็ทำธุรกิจท่องเที่ยว การค้า และรับราชการ จากจำนวนที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติบนบกที่มีน้อยมากๆ แต่มีประชากรเยอะของมัลดีฟส์ จึงทำให้ประเทศนี้มีปัญหาเยอะมากครับ ทั้งปัญหาคนยากจน คนว่างงาน ไม่มีที่อยู่อาศัย และสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพง ขาดแคลนน้ำจืด เป็นต้น แต่ด้วยระบบการใช้ชีวิตของคนมัลดีฟส์ที่พอเพียง เรียบง่าย สัมถะ และไม่ยึดติดกับวัตถุ จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการหาปลาเป็นอาหาร และพอจะมีเหลือไว้ขายเอาเงินไปซื้อของใช้ ของกินอื่นๆมาจุนเจือครอบครัว
ศูนย์กลางบริหารราชการของรัฐบาลมัลดีฟส์ริมทะเลในกรุงมาเล เมืองหลวงของประเทศมัลดีฟส์
ในด้านการเมืองและการท่องเที่ยวนั้น มัลดีฟส์เป็นประเทศที่มีระบบการเมืองที่มั่นคง ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแบบสันโดษ ไม่ฝักฝ่ายๆใด และมีผลประโยชน์การค้าการลงทุนกับต่างชาติค้อนข้างน้อย เพราะประเทศตั้งอยู่ในสถานที่ๆห่างไกล ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศอื่นเลย จึงมักไม่ปรากฏเป็นข่าว หรือเป็นเรื่องเป็นราวมากนักเหมือนประเทศอื่นๆ
ตลาดค้าปลาแบบชาวบ้านๆในมัลดีฟส์
ส่วนทางด้านการท่องเที่ยวนั้นต้องยอมรับครับว่า มัลดีฟส์เป็นประเทศที่ผู้คนทั่วโลกรู้จัก และเป็นประเทศที่มีผู้คนอยากไปเที่ยว ไปผักผ่อนแสวงหาความสุข ความสงบมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะที่นี่มีบรรยากาศสบายๆ ท้องฟ้าสีคราม ทะเลสีฟ้า หาดทรายสีขาว และห่างไกลจากความวุ่นวายต่างๆของโลกมนุษย์ ทำให้ในระยะหลังๆมามัลดีฟส์มีสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งในอนาคตรายได้จากการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์อาจจะสูงกว่ารายได้จากการทำประมงเสียอีก
มัสยิด al-Sultan Mohammed Thakurufaanu-al zam, มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงกรุงมาเล
ในอนาคตนั้นผมมองว่ามัลดีฟส์คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้กับปัญหาคนล้นประเทศ คนตกงาน คนยากจน และไม่มีที่อยู่อาศัย ถึงแม้มัลดีฟส์จะมีรายได้เสริมเพิ่มมากขึ้นจากธุรกิจการท่องเที่ยวก็ตามที และปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของมัลดีฟส์คือ การขาดแคลนน้ำ เพราะที่นี่ส่วนใหญ่เป็นน้ำกร่อยแทบทั้งสิ้น แต่ในด้านของการท่องเที่ยวนั้นคิดว่าคงยังจะมีคนแห่ไปเที่ยวที่นี่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมัลดีฟส์มีนโยบาย สนับสนุนธุรกิจภาคการท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศต่อไปในอนาคต.
ด้วยขนาดของเกาะต่างๆของประเทศมีขนาดเล็ก ทำให้ขีดความสามารถในการพัฒนาประเทศก็ถูกจำกัดลงไปด้วย และยังมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำจืด ที่อยู่อาศัยตามมาด้วย
Reference;
(1) http://www.visitmaldives.com/en/the-maldives/location-and-geography. Retrieved on 2nd December 2011.
(2) http://www.state.gov/r/pa/ei/bgn/5476.htm. Retrieved on 2nd December 2011.
(3) http://www.iias.nl/iiasn/iiasn5/insouasi/maloney.html. Retrieved on 2nd December 2011.
(4) http://www.travelchacha.com/maldives-hotels/independence-day.html. Retrieved on 2nd December 2011.
(5) Ibid, Retrieved on 2nd December 2011. Retrieved on 2nd December 2011.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น