สำนักข่าวอัลจาซีราห์ รายงานเมื่อเช้าวันนี้ว่า ประธานาธิบดี อาบูบากัร บาเชียร์ เเห่งซูดานได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเเล้วเมื่อเช้าวันนี้ (อังคารที่28มิถุนายน2011) เพื่อพบเเละหารือกับประธานาธิบดี ฮู จิน เทา ของจีน ในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เเละหารือในเรื่อง เศรษฐกิจ การค้า เเละ พลังงาน อีกด้วย
บาเชียร์ เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเเล้วเมื่อเช้าวันนี้
การเดินไปจีนในครั้งนี้ของ บาเชียร์ ถือว่าีมีนัยยะทางการเมืองเป็นอย่างมาก เพราะนี้ไม่ใช่เพียงเเค่การเจรจาหารือให้การสนับสนุนด้านการค้า เศรษฐกิจต่อซูดานซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศมุสลิมที่ยากจนเท่านั้น เเต่นั้นยังหมายถึงความพยายามของซูดานในการที่จะดึงจีนในฐานะหนึ่งในประเทศมหาอำนาจโลกเข้ามาหนุนหลังเเละคานอำนาจกับกลุ่มประเทศมหาอำนาจตะวันตกที่พยายามเข้ามาเเสวงหาทรัพยากรธรรมชาติอย่างน้ำมันดิบของซูดานด้วย
หากเราย้อนกลับไปดูสถาการณ์ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า สหรัฐอเมริกาพยายามทุกวิธีทางที่จะครอบครองทรัพยากรน้ำมันในตะวันออกกลางเเต่เพียงผู้เดียว เลยทำให้จีนซึ่งกำลังพัฒนาด้านเศรษฐกิจเเบบก้าวกระโดดเกิดการขาดเเคลนทรัพยากรน้ำมันเลยต้องเปลี่ยนเเผนออกไปลงทุนเเละเเสวงหาน้ำมันในกลุ่มประเทศเเอฟริกาเเทน เเละหนึ่งในนั้นก็คือประเทศซูดานนั้นเอง เนื่องจากซูดานมีอาณาเขตกว้างใหญ่มาก เเละมีปริมาณน้ำมันดิบใต้พื้นพิภพจำนวนมหาศาล ด้วยเหตุนี้จีนจึงเริ่มสถาปนาความสัมพันธ์ด้านการฑูต การค้า เศรษฐกิจ เเละการลงทุนกับซูดานมากขี้นในระยะเวลากว่าสิบปีให้หลัง โดยเฉพาะการลงทุนด้านพลังงาน เเละสำรวจน้ำมันดิบ เเละมีการคาดการณ์กันว่าซูดานอาจจะกลายมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ให้กับจีนก็เป็นได้ในอนาคตหากจีนสามารถช่วยเหลือซูดานในการสำรวจเเละผลิตน้ำมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจจะกว่าในอีกนัยหนึ่งว่า ทางด้านจีนเองก็เต็มใจที่เข้ามาหนุนหลังให้ซูดานเพราะหลักๆเเล้วจีนก็ต้องการรักษาผลประโยชน์ด้านพลังงานน้ำมัน การส่งออก เเละเศรษฐกิจของตนในซูดานด้วยเช่นกัน
นอกจากนัยยะทั้งสองข้อที่กล่าวไปเเล้ว ซูดานเองก็ยังอยากให้จีนคอยสนับสนุนซูดานในกรณีความขัดเเย้งเพื่อเเบ่งเเยกประเทศซูดานใต้อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลซูดานของ ประธานาธิบดี บาเชียร์ถูกมองจากกลุ่มชาติตะวันตก เเละสหประชาชาติว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการที่กดขี่ ข่มเหง เเละสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวซูดานใต้อยู่ในขณะนี้ เเละการเข้ามาสนับสนุนรัฐบาลซูดานของจีนก็อาจจะทำให้ซูดานรอดพ้นจากการประกาศคว่ำบาตหรือเเทรกเเซงใดๆที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย เพราะจีนนั้นถือได้ว่าเป็น 1 ใน 4 วีโต้ของสมาชิกถาวรประจำสหประชาชาติที่มีอำนาจในการระงับหรือคัดค้านการลงมติใดๆของสหประชาชาติได้นั้นเอง
จากข่าวการเดินทางมาเยือนจีนอย่างเป็นทางการของผู้นำซูดานในวันนี้ ก็คงไม่เเปลกอะไรมากในสายตาของนักรัฐศาสตร์เพราะเป็นที่ทราบกันดีเเล้วว่าซูดานเเละจีนต้องเดินหน้าเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรีกันอย่างเเน่นอน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ซูดานถูกบีบบังคับจากมหาอำนาจตะวันตกเช่นนี้.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น